“LG ทำการตลาด ‘ไม่เก่ง’? จริงๆ นั่นแหละคือกลยุทธ์”
- Editor H
- Jul 9
- 1 min read

LG ทำการตลาด “ไม่เก่ง”? จริงๆ นั่นแหละคือกลยุทธ์
สรุปสั้น 3 บรรทัด 📝
LG ใช้ภาพลักษณ์ “ไม่เก่งการตลาด” เพื่อสื่อถึงความจริงใจ
แทนที่จะใช้โฆษณา派น flashy ก็เลือกการสื่อสารเรียบง่าย เน้นฟังก์ชัน
สุดท้ายกลยุทธ์คือสร้างกระแสบอกต่อจากคุณภาพสินค้า
🌿 ความลับเบื้องหลังภาพลักษณ์ “เงียบๆ” ของ LG
เวลานึกถึง LG หลายคนน่าจะเคยได้ยินว่า “การตลาดไม่เก่ง แต่ของดี” ฟังแล้วตลกดีถ้าเข้าใจว่าภาพลักษณ์นี้เกิดมายังไง
Samsung จะไปทางสายใหญ่โตอลังการ – ดาราท็อป แคมเปญยักษ์ สปอนเซอร์ระดับโลก ผลลัพธ์คือภาพลักษณ์ปังทันตาเห็น
แต่ LG เลือกแนวสงบๆ ชิลๆ โฆษณาจะโฟกัสไปที่ฟีเจอร์และประสิทธิภาพของสินค้า ไม่ได้ออกแบบมาให้สะดุดตาทันที แต่ค่อยๆ สร้างภาพลักษณ์ในระยะยาว เลยทำให้คนรู้สึกว่า “LG แทบไม่ได้ทำการตลาดเลย”
✨ เดี๋ยวก่อน—รู้ไหมว่า LG ใช้งบโฆษณาเกิน 1.6 ล้านล้านวอน?
ที่จริง LG ไม่ทำการตลาดเหรอ? ไม่ใช่เลย จริงๆ ใช้เงินเยอะมาก
ในปี 2024 งบโฆษณาและโปรโมชันของ LG เกือบ 1.6 ล้านล้านวอน เพิ่มขึ้นกว่า 8% จากปีก่อน เทียบกับตลาดโฆษณาทั้งหมดในเกาหลีที่คาดว่าจะประมาณ 17.7 ล้านล้านวอน แปลว่า LG คนเดียวก็แทบ 9% ของตลาดแล้ว ใหญ่มาก
ชัดเลยว่า LG ให้ความสำคัญกับการตลาด แค่วิธีไม่เหมือน Samsung ที่เน้นเรื่องเล่าแบบดราม่า อารมณ์เยอะ LG จะบอกตรงๆ ว่า “ของเราดี นี่คือเทคโนโลยีของเรา”
โดยเฉพาะในหมวดทีวีและเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน กลยุทธ์นี้ช่วยสร้างภาพพรีเมียม คนจะคิดว่า “ไม่ได้แพงเพราะโฆษณาหรู แต่แพงเพราะคุณภาพจริงๆ”
💬 “การตลาดไม่เก่ง” คือส่วนหนึ่งของการตลาด
พีคตรงนี้แหละ เวลาใครพูดว่า “LG การตลาดไม่เก่ง” นั่นแหละคือการตลาดของ LG เอง มันกลายเป็นเหมือนมีม
LG ไม่ได้พยายามล้างภาพนี้แรงๆ แต่ปล่อยให้มันอยู่ เพราะมันแปรเปลี่ยนเป็น “เชื่อถือได้ เรียบง่าย ไม่เว่อร์” ผู้บริโภคจะมองว่าจริงใจ
สุดท้าย LG ไม่ใช่ไม่ทำการตลาด แต่ทำอย่างมีกลยุทธ์ พูดง่ายๆ คือ “เราไม่จำเป็นต้องหวือหวา เดี๋ยวโชว์เทคโนโลยีให้ดูแทน” แล้วพอคนพูดต่อกันว่า “LG การตลาดไม่เก่ง แต่ของดี” นั่นแหละคือเครื่องยนต์การตลาดที่แท้จริง
🌿 มีมแบบรู้ตัวที่ทำให้ LG เหมือนสมบัติลับ
จุดสำคัญคือ LG ไม่ได้แค่ปล่อยให้คนว่า “การตลาดไม่เก่ง” เฉยๆ แต่เปลี่ยนมันเป็นมีมที่รู้ตัว
มีคนแซวกันว่า “ทีมการตลาด LG คงหลับอยู่ ของดีแต่ไม่มีใครรู้!” การแชร์มุกนี้ก็คือการเล่าเรื่อง LG ต่อไป
บทสนทนาแบบนี้นี่แหละที่สร้าง word-of-mouth ทำให้ LG ดูเหมือน hidden gem – แบรนด์ที่เราบอกเพื่อนเพราะมันดูจริงใจและไม่ hyped เกิน เทียบกับโฆษณาที่ดูเป๊ะจัดๆ แบบโอเวอร์ โปร่งใสแบบนี้กลับน่าเชื่อถือกว่า
🔎 ขาย “ความซื่อตรง” แทนความอลังการ
ทุกวันนี้ผู้บริโภคเริ่มเบื่อโฆษณาที่เว่อร์และปลอมเกิน ทุกอย่างดูโกหกไปหมดใช่ไหม?
LG ตอบโจทย์ด้วยความตรงไปตรงมา โฆษณาเน้นฟีเจอร์จริงๆ ให้ฟีลว่า “แบรนด์นี้ไม่โกหก” ภาพลักษณ์ “การตลาดไม่เก่ง” กลับกลายเป็นความเชื่อใจ “เขาไม่เปลืองเงินไปกับ hype แต่โชว์สิ่งที่มันทำได้จริง”
ลองดูแคมเปญเครื่องล้างจานปี 2024 กับ Lee Hyori สิ แทนที่จะจัดฉากเนี๊ยบๆ ก็ใช้ฟุตเทจการใช้งานครั้งแรกจริงๆ ของเธอ มันไม่ flashy แต่รู้สึกจริงใจ เธอเป็นสตาร์ แต่เป็นสตาร์ที่ขายความ real ได้
🔎 พลังของสินค้าที่หนุนกลยุทธ์โฆษณา
แน่นอน ทั้งหมดนี้ทำได้เพราะ LG มีสินค้าที่แข็งแรง
อย่างโน้ตบุ๊ก Gram – เบาเป็นจุดขายชัดๆ ที่คนพูดต่อกันได้เอง หรือทีวี StanbyME ที่คนชอบแชร์บนโซเชียลเพราะยกไปไหนก็ได้
รีวิวจากผู้ใช้จริงนี่แหละน่าเชื่อกว่าการตลาดบริษัทเยอะ ถ้าเพื่อนบอกว่าดี มันโน้มน้าวใจได้มากกว่าโฆษณาไหนๆ
🌿 วิธีของ LG: เปิด “จุดด้อย” เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ
ท้ายที่สุด ภาพลักษณ์ “การตลาดไม่เก่ง” ก็เหมือนช่องทางธรรมชาติในการสร้าง UGC (user-generated content)
คนทำคลิป รีวิว โพสต์ของตัวเอง ซึ่งน่าเชื่อถือกว่าคอนเทนต์บริษัทที่ผลิตอย่างเนี้ยบ
LG ไม่ซ่อนจุดอ่อน แต่เปิดให้เห็น ชวนคนเข้ามาลอง โชว์จุดแข็งจริงๆ และพูดอย่างมั่นใจว่า “ของเราดีจริง”
ไม่ได้ไม่รู้เรื่องนะ แต่แทนที่จะพยายามสลัดมีม “การตลาดไม่เก่ง” LG กลับใช้มันเป็นจุดขาย พร้อมๆ กับการทำคอนเทนต์ user experience การตลาดบอกต่อ และแคมเปญไวรัลบนโซเชียลให้ทันยุค
✅ สรุปสั้นวันนี้:
LG คือแบรนด์ที่เปลี่ยน “การตลาดไม่เก่ง” ให้เป็นอาวุธ สร้างความเชื่อใจด้วยความเรียบง่ายและความจริงใจ



